เตือนปิดกรุง-ข้ามเส้นอหิงสาn คอลัมน์ รายงานพิเศษ ข่าวสดออนไลน์

กระทู้สนทนา
เป้าประสงค์ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่ประกาศปิดกรุงเทพฯ หลังปีใหม่

จุดมุ่งหมายเพื่ออะไร จะส่งผล กระทบแค่ไหน และจะบานปลายนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่

มีความเห็นจากนักวิชาการ นักธุรกิจ และภาคประชาชน



สมบัติ บุญงามอนงค์

บ.ก.ลายจุด


การประกาศยึดกรุงเทพฯ 8-10 วัน พร้อมไล่คนที่ไม่เห็นด้วยออกไปอยู่ต่างจังหวัดถือเป็นการ
ดูถูกคนอื่นมาก ทำไมคนที่เขาอยู่บ้านหรือทำงานที่กรุงเทพฯ จะต้องทำตาม

เป็นมาตรการที่แข็งกร้าวคล้ายกับ การปฏิวัติวัฒนธรรมที่ประเทศจีน แต่นายสุเทพไม่มีความ
ชอบธรรมพอที่จะสามารถทำได้ขนาดนั้น

การปิดกรุงจะทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ ต้องดู 2 ปัจจัย

1.คนที่ไม่เห็นด้วยจะกล้าแสดงความไม่พอใจหรือไม่ เช่น หากปิดสี่แยกไฟแดงจะมีผู้ใช้ถนน
กล้าบีบแตรใส่หรือตะโกนไล่หรือไม่ ถ้ามีคนทำก็ต้องดูว่าจะมีผู้ไปทำร้ายเขาหรือไม่

2.ความดุดันของกลุ่มผู้ชุมนุมจะยังคงมีอยู่หรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าส่วนใหญ่ไม่ได้มีความก้าวร้าว
อะไรแต่ก็จะมีกลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกฮาร์ดคอร์

ถ้าคนกรุงเทพฯ พร้อมจะร่วมปิดกรุงเทพฯ ก็ถือว่ากลุ่ม กปปส.มีความชอบธรรม การกระทำดังกล่าว
ถึงจะถือว่าสันติอหิงสา แต่เชื่อว่าชาวกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

และมีความสุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดความรุนแรง หรือการปะทะ เพราะการกดดันลักษณะนี้เป็นการกดดัน
ให้คนกรุงเทพฯ ออกมาร่วมกับ กปปส. กดดันรัฐบาล

เป็นการจับคนกรุงเทพฯ เป็นตัวประกัน แต่ต้องอย่าลืมว่ากว่าจะจับได้ก็ต้องสู้กันก่อน ซึ่งจะทำให้
คู่ขัดแย้งเปลี่ยนจาก กปปส.กับรัฐบาล กลายเป็น กปปส.กับคนกรุงเทพฯ เอง

จึงมีโอกาสง่ายมากที่จะมีเรื่องกัน ลองคิดดูว่าหากคุณเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยแต่มีการชุมนุมมาปิดซอย
ปิดหน้าบ้าน คุณจะรู้สึกอย่างไร

ขณะเดียวกัน อาจมองได้ว่าเป็นความตั้งใจอย่างหนึ่งของนายสุเทพที่จะทำให้เกิดปัญหาเพื่อที่จะ
ให้ทหารออกมาช่วย เพราะนี่คือสิ่งที่นายสุเทพรอมาตลอด

อยากให้คนที่ไม่เห็นด้วยอดทนอดกลั้นและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แทน อาทิ ให้เปิดไฟหน้ารถ
วันที่มีการปิดกรุงเทพฯ เป็นต้น เหมือนอย่างที่ผมเคยรณรงค์ช่วงท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ โดย
ให้ผูกผ้าแดงไว้ที่รถ ติดสติ๊กเกอร์ วันที่ 2 ก.พ. 2557 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งไว้ตามต้นไม้ที่วิ่งผ่าน
เพื่อแสดงออกว่าพวกเราสนับสนุนการเลือกตั้ง เป็นต้น

นายสุเทพไม่มีหนทางอื่น ไม่มีทางลง จึงจำเป็นต้องเดินแนวทางนี้ เพื่อจะชนะหรือไม่ก็เป็นกบฏติดคุก
ทางออกคือทางถอย แต่เขาเดินนำหน้าตามด้วยมวลชนเยอะมากเดินตามหลัง เขาก็ถอยไม่ได้ จึงติด
อยู่กลางซอยพร้อมกับคนจำนวนมากเหล่านั้น

ส่วนทางข้างหน้าก็เป็นทางตัน ทางชนะไม่มี เขาอาจต้องรอคนมีเมตตามาช่วย แต่ที่ผ่านมาฝ่าย
ทหารก็พยายามช่วยแล้วแต่ไม่สำเร็จเพราะข้อเรียกร้องของกลุ่ม กปปส.มันเป็นไปไม่ได้ วิธีเดียว
ที่เขาจะทำคือทุบกำแพงข้างหน้าแล้วเดินออกไป

การปิด กทม.มีต้นทุนที่ต้องจ่าย อย่านึกว่าจะได้ฟรี วันหนึ่งแม้แต่ตารางนิ้วเดียวในกรุงเทพฯ ก็อาจ
จะไม่มีที่ให้นายสุเทพยืน

วันนี้อาจจะกร่างเดินไปไหนมาไหนแต่นั่นคือการคิดไปเองทั้งสิ้น

อยากให้เขาทำสำเร็จ อยากให้ยึดกรุงเทพฯ หลายๆ วันมันจะได้จบๆ แต่คงราคาคุย คงมีผู้เข้าร่วมปิด
กรุงเทพฯ ไม่เยอะมาก



พรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล

รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย


คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนพลปิดเฉพาะจุดสำคัญๆ เท่านั้น เช่น สีลม อโศก สยามพารากอน
เป็นต้น ไม่ได้ปิดทุกจุดทั้งกรุงเทพฯ เพราะหากปิดกรุงทั้งหมดต้องใช้คนจำนวนมากกระจายไป
ในหลายๆ จุดพร้อมๆ กัน

แต่การปิดกรุงครั้งนี้อาจแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา คือ คาดว่าจะมีการเคลื่อนมวลชนปิดถนนแต่
ละจุดที่วางไว้ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้น เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล

มองอีกด้านหนึ่งการชุมนุมปิดถนนเป็นระยะเวลา ที่ยาวนานขึ้นอาจส่งผลกระทบทำให้จำนวนผู้ชุมนุม
ลดน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนอาจ มีความจำเป็นต้องแยกย้ายไปทำงาน

การปิดถนนเป็นเวลาสั้นๆ จะมีผลกระทบเฉพาะการจราจรทำให้ประชาชนเดินทางไม่สะดวก แต่หาก
ปิดถนนแต่ละจุดเกินกว่า 1 สัปดาห์ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในกรุงเทพฯ ซึ่งจะเสียหาย
ประมาณ 500 ล้านบาท

เนื่องจากการเดินทางไม่สะดวก ทำให้ประชาชนบางส่วนอาจเลือกที่จะอยู่บ้าน ทำให้การจับจ่ายใช้
สอยซื้อของ ช็อปปิ้ง หรือเดินทางท่องเที่ยวลดลง ในความเห็นส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการ
ปิดกรุง เพราะสร้างความเสียหายให้กับทุกฝ่าย และมองว่านายกฯ และรัฐบาลก็ไม่ลาออกแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หากการปิดกรุงครั้งนี้ มีการระดมคนออกมาชุมนุมจำนวนมากและกระจายไปตามจุด
สำคัญหลายๆ จุด หรือเฉลี่ยจุดละไม่ต่ำกว่าหมื่นคนอาจจะทำให้รัฐบาลอยู่ยากขึ้น



สมชาย ปรีชาศิลปกุล

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


สิงที่ กปปส.พยายามทำ คือ การแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีความสามารถในการบริหารบ้านเมือง

ในแง่หนึ่ง กปปส.อาจต้องระมัดระวังว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เกินเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญ
กำหนดไว้ และยิ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวของ กปปส.หมดความชอบธรรมลง

การที่ กปปส.ปิดกทม.ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ
กปปส. ยังมีคนที่ จ.อุดรธานี เชียงราย หรือเชียงใหม่ที่ยังใช้ชีวิตตามปกติ

สิ่งที่ กปปส.ทำ จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า "อันธพาลเสียงข้างน้อย" บีบบังคับให้คนทั้งประเทศ
คิดเหมือน กปปส. และทำให้เกิดความไม่มั่นคงในชีวิตของประชาชน ซึ่งในสังคมเสรีประชาธิปไตย
การชุมนุมทำได้แต่ไม่ใช่การชุมนุมที่ไปคุกคามคนอื่นๆ อย่างกว้างขวางเช่นนี้

กปปส.คงปิด กทม.ทั้งหมดไม่ได้แน่ แต่ต้องการสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้รัฐบาลถอยไปมากกว่านี้
ขณะนี้รัฐบาลก็ถอยจนหมดหนทางในทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

หรืออาจจะปิด กทม.เพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก ไปจนถึงให้กองทัพออกมารัฐประหาร

หากการรัฐประหารเกิดขึ้นจริง สังคมไทยจะวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิมจนเป็นมิคสัญญีเพราะจะมีคน
จำนวนมากไม่ยอม หรือเงียบเหมือนการรัฐประหารเมื่อปี 2549

นอกจากนี้ กปปส.คงต้องทำอะไรสักอย่างให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแบบ
ไม่เรียบร้อยมากที่สุด เพราะหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น จะทำให้มีผู้แทนจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะ
หมายถึงผู้แทนที่มีความชอบธรรมมากกว่า กปปส.

การเคลื่อนไหวของกปปส.ก้าวข้ามเส้นสันติ อหิงสามานานแล้ว เห็นได้จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นใน
หลายจุด การเคลื่อนไหวคัดค้านยึดสถานที่ราชการต่างๆ

หาก กปปส.หรือนายสุเทพต้องการรูปแบบการปกครองอื่นๆ ก็ต้องผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สภาประชาชนแบบที่นายสุเทพต้องการ อยู่ๆ จะตั้งขึ้นเองไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องมีกฎหมายมารองรับ

หากนายสุเทพต้องการสภาประชาชนก็ต้องผลักดันให้เป็นรัฐธรรมนูญ กลับมาอยู่ในการเมืองระบบ
เลือกตั้ง เผยแพร่ความคิดของตัวเองให้คนเห็นว่าความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9EY3pORGs0TWc9PQ==&sectionid=

ชัดเจนอยู่แล้ว  คงไม่ต้องเพิ่มเติมอีก   นอกจากเพื่อนๆ  คนไหนยืนยันว่า  นี่คือ สันติ อหิงสา  ก็เชิญได้
แบบคนที่ไปชุมนุมน่ะค่ะ มาถกเถียงกันหน่อย  กล้าป่าวว ?ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่